True
iPhone 7 ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 26900.- และราคาพร้อมโปรเริ่มที่ 18900.-
iPhone 7 Plus ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 31900.- และราคาพร้อมโปรเริ่มที่ 23900.-

จองได้ที่ http://booking.truecorp.co.th/iphone7/web/step_promotion

Dtac (หมดแล้ว)
iPhone 7 ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 26500.- และราคาพร้อมโปรเริ่มที่ 23500.-
iPhone 7 Plus ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 31500.-

จองได้ที่ http://preorder.dtac.co.th/iphone7

Ais (หมดแล้ว)
iPhone 7 ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 26500.-
iPhone 7 Plus ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 31500.-

จองได้ที่ http://www.ais.co.th/iphone7/

Apple
iPhone 7 ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 26500.-
iPhone 7 Plus ราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นที่ 31500.-

หลังจากมีการเรียกคืนพร้อมปล่อยเครื่อง Lot 2 ออกมา แต่ Galaxy Note 7 ยังคงมีปัญหาเรื่องความร้อน Samsung จึงได้ประกาศหยุดจำหน่ายและเปลี่ยนเครื่อง Note 7 ในระหว่างการสอบสวน โดยคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้งาน

โดยระหว่างนี้ขอให้ผู้ใช้งาน Galaxy Note 7 ปิดเครื่องและหยุดการใช้งานไปก่อน

สำหรับประเทศไทย ยังคงต้องรอฟังข่าวคราวความคืบหน้า และประกาศอย่างเป็นทางการจาก Samsung Thailand ก่อนค่ะ

ที่มา Samsung

ปล่อยให้รอกันอย่างไม่มีกำหนดมาเนิ่นนาน วันนี้ทาง SAMSUNG ได้มีแถลงการณ์ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ โดยผู้ที่สั่งจองล่วงหน้า (Pre-Booking) จะได้รับสินค้าไม่เกินวันที่ 30 พ.ย. โดยมีของแถมเพิ่มเติมจากเดิมคือ หูฟัง Samsung Level Active สีดำ มูลค่า 2990 บาท

สรุปของแถมสำหรับผู้ที่จองล่วงหน้า
1. ส่วนลดมูลค่า 2000 บาท
2. Value Pack มูลค่า 3190 บาท (ประกอบด้วย S View Standing Cover, Stand Wireless Fast Charger, Data Cable, Micro USB to C Adapter, USB Type A to C Adapter)
3. Backpack Battery มูลค่า 2590 บาท
4. การรับประกันจอแตกสำหรับลูกค้า Note1-5 ที่ใช้โค้ด Galaxy Gift
5. หูฟัง Samsung Level Active มูลค่า 2990 บาท
รวมมูลค่าของแถม 10770 บาท

สำหรับลูกค้าที่ต้องการยกเลิกสามารถแจ้งการยกเลิกได้ภายใน 10 ตุลาคมนี้ โดยติดต่อทางช่องทางที่ได้สั่งจองไว้ และรับเงินจองคืนพร้อม Gift Voucher 2000 บาท

โดยเครื่องล็อตใหม่ที่นำเข้ามาขายจะสามารถตรวจสอบสัญลักษณ์แบตเตอรี่สีเขียวได้ 3 จุด พร้อมกับตัดคำว่า DUOS ด้านหลังออกไปด้วย ^^

ที่มา SAMSUNG THAILAND

คาดว่าสาวกสตาร์บัคส่วนใหญ่น่าจะรู้จักชื่อนี้กันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่พิเศษนั่นคือวันนี้ TEAVANA ได้มาเปิดที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการแล้วค่าา

โดยเครื่องดื่มที่มาใหม่นั้นจะมี 4 เมนูด้วยกัน
1. ICED MATCHA & ESPRESSO FUSION
2. ICED SHAKEN HIBISCUS TEA WITH POMEGRANATE PEARLS
3. ICED SHAKEN GREEN TEA WITH ALOE & PRICKLY PEAR
4. ICED SHAKEN BLACK TEA WITH RUBY GRAPEFRUIT & HONEY

นอกจากนี้สมาชิก My Starbucks Rewards ยังได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
- GOLD LEVEL รับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว เลือกได้จากเมนูใหม่
- GREEN LEVEL ลด 50% ในการซื้อเครื่องดื่มเมนูใหม่
- WELCOME LEVEL ลด 20% ในการซื้อเครื่องดื่มเมนูใหม่

วันนี้ลองเมนูแรกก่อนเลยค่ะ ICED MATCHA & ESPRESSO FUSION โดยเครื่องดื่มจะมาแยกเป็นชั้นๆ โดยชั้นล่างสุดคือชาเขียว ชั้นกลางเป็นนม และชั้นบนสุดเป็นกาแฟ บาริสต้าแนะนำว่าให้ดูดแล้วยกหลอดขึ้นทีละชั้น จะอร่อยกว่าคนรวมกันค่ะ ลองแล้วท่ายากมาก แต่โดยรวมคือโอเคเลย สำหรับใครที่ชอบสั่งชาเขียวแล้วเพิ่มชอตกาแฟ ตัวนี้ไม่เหมือนกันเลย รสจะเข็มกว่า หวานน้อยกว่า คนละความรู้สึกเลยค่ะ

ใครลองแล้วติดใจเมนูไหน มาแชร์กันได้เลยนะคะ ^^

หลังจากโดนประกาศห้ามใช้งาน ชาร์จแบตและโหลดใต้เครื่อง Samsung ได้เรียกคืน NOTE 7 ที่มีปัญหาทั้งหมดคืน และได้ทำการเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้แล้วในบางส่วน องค์กรการบินของเกาหลีจึงอนุญาตให้ NOTE 7 สามารถขึ้นเครื่องและใช้งานได้ตามปกติแล้ว โดยให้สายการบินสังเกตเครื่องที่ปลอดภัยจากแบตเตอรี่สีเขียว โดยสามารถดูได้ที่หน้าจอ

จากนี้เราคงต้องรอดูท่าทีจาก FAA ว่าจะมีประกาศเพิ่มเติมออกมาเมื่อใด

ที่มา Sammobile

หลังเรียกคืนและทำการเปลี่ยนเครื่อง Note 7 ล็อตเก่าที่มีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ วันนี้ Samsung ได้ออกมาบอกถึงวิธีสังเกตเครื่อง Note 7 ล็อตที่มีปัญหาและล็อตใหม่ เพื่อความมั่นใจในการใช้งาน โดยมีวิธีดูจากแบตเตอรี่สีเขียว โดยสัญลักษณ์แบตเตอรี่สีเขียวนี้จะโชว์ที่
1. Status Bar
2. The Always On Display Screen
3. The Power Off Prompt Screen เข้าได้โดยการกดปุ่ม Power ค้าง
นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถตรวจสอบจากสัญลักษณ์สี่เหลี่ยมสีดำบนกล่องได้อีกด้วย
หมายเหตุ สัญลักษณ์แบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว หลังจากทำการอัพเดตซอฟแวร์เรียบร้อยแล้ว

สำหรับประเทศไทย ยังคงต้องรอคอยประกาศอย่างเป็นทางการจาก Samsung ประเทศไทยถึงกำหนดวันรับเครื่องสำหรับผู้จอง และวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกครั้งค่ะ

ที่มา Samsung

เปิดตัวกันไปได้ไม่นานสำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus เหล่าสินค้า Accessory ต่างๆก็ได้เปิดตัวสินค้ากันมากมาย วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีเคสแบบไหนที่จะถูกใจสาวกค่าย Apple กันบ้าง

1. Apple - เริ่มด้วย Apple ที่ตอนนี้เปิดขายเคสบางส่วนแล้วค่ะ มีทั้งแบบ Silicone , เคสหนัง ( Leather ) , แบตเตอรี่เคส ( Battery Case)

2. Spigen - แบรนด์ยอดนิยมของคนไทย ได้โชว์สินค้าบนเว็บไซต์ก่อนวันที่ iPhone เปิดตัวเสียอีก มีเคสหลากหลายแบบทั้งเคส TPU , เคสหนัง , เคสกันกระแทก ฯลฯ

3. VRS Design - หรือ Verus ที่เราคุ้นเคยกัน มีเคสหลากหลายแบบทั้งเคส TPU , เคสหนัง , เคสกันกระแทก, เคสเก็บการ์ด ฯลฯ

4. REARTH - ส่ง Ringke Collection ที่มีเคสใสยอดนิยมอย่าง Ringke Fusion เป็นสินค้าเด่นมาสู้กับแบรนด์อื่นด้วย

5. Elago - แบรนด์ที่มีดีด้านการดีไซน์ สวย เรียบ หรู ดูดีต้องยกให้แบรนด์นี้เลย

6. Araree - เคสแบรนด์สัญชาติเกาหลีก็มีนะ เอาใจวัยรุ่นด้วยเคสสีสันฉูดฉาด มีเคสหลายแบบให้เลือกทั้งด้านดีไซน์และฟังก์ชั่นด้านการใช้งาน

ทั้งนี้ยังคงมีสินค้าอีกหลายแบรนด์ที่ทยอยออกมาเอาใจคนใช้ iPhone กันอย่างเนืองแน่น ชอบแบบไหน สไตล์ไหนเลือกกันได้ตามใจเลยค่ะ

เลือกดูแบบเคส iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ได้ที่นี่เลยนะคะ

รูปประกอบ : Apple, Spigen, Verus, Rearth, Elago, Araree

หลังจาก Samsung ได้เรียกคืน Galaxy Note 7 ทั่วโลก ประมาณ 2.5 ล้านเครื่องเพื่อเปลี่ยนเครื่องใหม่จากเหตุการณ์แบตเตอรี่ระเบิด อาจจะมีบางคนที่ยอมเสี่ยงใช้งาน Galaxy Note 7 อยู่โดยไม่เปลี่ยนเครื่อง

ล่าสุดได้มีข่าวลือจาก Reddit ออกมาว่า Samsung จะทำการ Deactivated ระยะไกล ภายในกันยายนนี้ ซึ่งทำให้ Galaxy Note 7 ล็อตเดิมที่มีปัญหาจะไม่สามารถใช้งานได้ หากใครยังไม่ได้เปลี่ยนเครื่องตอนนี้ แนะนำให้รีบติดต่อศูนย์ หรือร้านที่ซื้อมาจะดีกว่าค่ะ

ทั้งนี้นโยบายการเปลี่ยนคืนเครื่องจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยในประเทศไทยลูกค้าจะต้องคืนเครื่องก่อน แล้วรอรับเครื่องล็อตใหม่ ซึ่งทาง Samsung จะประกาศการรับเครื่องล็อตใหม่ออกมาอีกครั้งค่ะ

ที่มา : Phonearena

หลังจากงานเปิดตัว iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ประเด็นที่คนพูดถึงอีกเรื่องคือ รูหูฟังที่หายไป โดยจะใช้ช่อง lightning แทน ที่นี้คำถามที่เกิดขึ้นคือ ถ้าเสียบชาร์จอยู่แล้วจะใช้หูฟังได้ยังไง มาฟังคำตอบจาก Phil Schiller หัวหน้าฝ่าย Worldwide Marketing ของ Apple กันค่ะ
สรุปแล้ว Phil Schiller ได้แนะนำให้ใช้ AirPods ในขณะที่ iPhone 7 ชาร์จอยู่ เพราะสามารถเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้สะดวก แต่ถ้าอยากใช้หูฟังแบบมีสาย แนะนำ Apple Lightning Dock ที่มีช่องเสียบหูฟัง หรือลำโพงในขณะชาร์จโทรศัพท์ได้

คำตอบนี้เป็นทางออกที่ดีทีเดียว เสียอย่างเดียวตัวที่พี่ Phil แนะนำมาค่ะ เรามาดูราคากัน AirPods หูฟังตัวใหม่จาก Apple สนนราคาอยู่ที่ $159 (ประมาณ 5500 บาท) หรือจะเป็น Apple Lightning Dock ราคา $49 (ประมาณ 1700 บาท) ไม่ง่ายเลยกับการฟังเพลง ชาร์จเสร็จแล้วค่อยฟังก็ได้เนอะ T^T



ที่มา+ภาพประกอบ macrumors

สืบเนื่องจากวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมาได้มีข่าวว่า FAA ได้ออกคำเตือน ว่าไม่ควรใช้งาน Galaxy Note 7 บนเครื่องบิน หลังจากเกิดเหตุ Galaxy Note 7 ระเบิด และได้ทำการเรียกคืนสินค้าทั่วโลก FAA (Federal Aviation Administration) ได้มีคำเตือนว่าไม่ควรใช้งาน Galaxy Note 7 ขณะอยู่บนเครื่องบิน

แม้ว่า FAA เอง จะไม่ได้แบน หรือห้ามนำ Note 7 ขึ้นเครื่อง เพียงแต่ไม่ให้เปิดหรือชาร์จเครื่องขณะอยู่บนเครื่องบิน และในวันนี้เองทางสายการบินอย่างการบินไทย, เอทิฮัด แอร์เวย์ส, สายการบินแควนตัส และเวอร์จินออสเตรเลีย ได้ประกาศห้ามใช้งานและชาร์จแบตเตอร์รี่ Galaxy Note 7 บนเครื่อง รวมถึงห้ามโหลดไว้ใต้ท้องเครื่องบินในทุกเที่ยวบิน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร

อย่างไรก็ดีทาง FAA อาจเปลี่ยนคำเตือนหากมีข้อมูลเพิ่มเติม และมีความเป็นไปได้ว่าจะเพิ่มความเข้มงวดไม่ให้ใช้ Galaxy Note 7 บนเครื่อง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างแรกกับทาง Samsung เองด้วย

ข้อความอ้างอิงจาก FB Thai Airways
"การบินไทยแจ้งเตือนผู้โดยสารเรื่องการใช้งานสมาร์ทโฟนซัมซุง รุ่น Galaxy Note 7
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศแจ้งผู้โดยสารห้ามเปิดใช้งานซัมซุง รุ่น Galaxy Note 7 บนเครื่องบินและห้ามโหลดไว้ใต้ท้องเครื่องบิน

เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจากกรณีที่มีการประกาศเรียกคืนผลิตภัณฑ์และระงับการจำหน่ายโทรศัพท์ซัมซุง รุ่น Galaxy Note 7 ทั่วโลกนั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกท่าน การบินไทยขอความร่วมมือจากผู้โดยสารที่ใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวไม่เปิดใช้งานหรือชาร์จระหว่างเดินทางอยู่บนเครื่องบิน และไม่เก็บสมาร์ทโฟนของท่านไว้ในสัมภาระที่ฝากไปกับอากาศยาน (โหลดใต้ท้องเครื่องบิน) นอกจากนี้หากท่านพบว่าอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ใดๆ ของท่าน แตกหักเสียหาย มีอุณหภูมิสูงขึ้นอย่างผิดปกติ มีควัน สูญหายระหว่างเที่ยวบิน หรือ หลุดหายเข้าไปในช่องว่างระหว่างที่นั่ง ขอความกรุณาแจ้งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินให้ทราบทันที

ทั้งนี้ ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของบริษัทฯ และยังเป็นข้อกำหนดของสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency: EASA) อีกด้วย
ผู้โดยสารสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiairways.com หรือ สอบถามข้อมูลได้ที่ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง"

ที่มา : manager, techspot, FB Thai Airways

ขายเมื่อไร ?
9 กันยายน 2559 สำหรับการสั่งจอง Pre-Order ในต่างประเทศ
16 กันยายน 2559 ในกลุ่มประเทศแรก (ไม่มีไทย) ได้แก่
Australia, Austria, Belgium, Canada, China, Denmark, Finland, France, Germany, Hong Kong, Ireland, Italy, Japan, Luxembourg, Mexico, Netherlands, Norway, Portugal, Puerto Rico, Singapore, Spain, Sweden, Switzerland, Taiwan, UAE, United Kingdom, United States
และอีกในอาทิตย์ต่อมา สำหรับประเทศในกลุ่มที่สอง (ไม่มีไทย) เช่น
Bahrain, Cyprus, Czech Republic,Greece, Hungary, Iceland, Kuwait, Latvia, Maldives, Monaco, Poland, Qatar, Romania, Russia, Saudi Arabia, Slovakia
 ความจุที่มีให้เลือก
32GB, 128GB, 256GB โดยตัด 16GB และ 64GB ออกไป

Rose Gold, Gold, Silver, Black (ดำด้าน), Jet Black (ดำเงา มีให้เลือกในรุ่น 128GB, 256GB เท่านั้น)
iPhone 7   32GB - 649$
iPhone 7 128GB - 749$
iPhone 7 256GB - 849$

iPhone 7 Plus   32GB - 769$
iPhone 7 Plus 128GB - 869$
iPhone 7 Plus 256GB - 969$

 กล้องหลังความละเอียด 12MP F1.8 พร้อมระบบกันสั่น / Flash Quad-LED แบบ True tone ให้แสงสมจริง / Software Apple-designed ISP ให้คุณภาพรูปสมจริงที่สุด / ถ่ายภาพแบบ RAW File / กล้องหน้าความละเอียด 7MP
 หน้าจอขนาด 4.7” Retina HD สว่างขึ้น 25%
 ปุ่ม Home ใหม่ เซนเซอร์มีความละเอียดสูง รองรับแรงกดแบบ 3D Touch รวมถึงการสั่งงานหน้าต่าง Multitasking
 กันฝุ่นและน้ำที่ระดับ IP67 อยู่ใต้น้ำที่ความลึก 1 เมตรได้ไม่เกิน 30 นาที (ใช้งานในน้ำไม่ได้)
 ลำโพงแบบ Stereo ออกแบบให้เก็บรายละเอียดของเสียงได้คมชัด สมจริง ดังชัดกว่า iPhone 6s 2 เท่า
 EarPods แบบสาย Lightning ตัดช่องเสียบแบบ 3.5mm ออกไป (มีแถมตัวเปลงเป็น 3.5mm มาภายในกล่อง)
 หน่วยประมวลผล Quad Core A10 มีประสิทธิภาพสูงและเร็วกว่า iPhone 6 ถึง 2 เท่า
 แบตเตอร์รี่ที่อึดและใช้งานได้ยาวนาน โดยจะอึดกว่า iPhone 6s ถึง 2 ชั่วโมง (7 Plus อึดกว่า 6s Plus 1 ชั่วโมง)
 มาพร้อมกับ iOS 10

สำหรับสเปค iPhone 7 Plus จะมีส่วนที่แตกต่างกับ iPhone 7 คือ
 กล้องหลังคู่ ตัวที่ 1 เก็บภาพแบบ Wide-Angle และตัวที่ 2 เก็บภาพแบบ Telephoto ซึ่งภาพที่ได้จะทำให้เกิดมิติที่มีความชัดลึก สามารถซูมแบบดิจิตอลได้ถึง 10 เท่าโดยไม่สูญเสียความละเอียด
 หน้าจอขนาด 5.5” Retina HD
ตัวนี้เป็นออพชั่นเสริมเพิ่มเติม เป็นหูฟังแบบไร้สาย สามารถเชื่อมต่อกับ Siri และ Apple Watch ได้ มีไมโครโฟนในตัว ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 159$

เปิดให้ดาวน์โหลด 13 กันยายนนี้พร้อมกันทั่วโลก / อ่านรายละเอียดของ iOS 10 ได้ที่นี่