“Teppanyaki” อาหารปิ้งย่างที่ใครก็รู้จัก จะว่าไป Miyazaki ไม่ใช่ร้านที่เพิ่งเปิดใหม่อะไร แต่เป็นร้านที่คิดถึงเพราะไม่ได้ไปกินมานานแล้ว วันนี้ Kwang Pai Nai เลยขอลองเข้าไปชิมร้านนี้ดูอีกสักที
ร้านนี้เป็นร้านในเครือของ MK ที่แตกไลน์มาทำอาหารสไตล์ปิ้งย่างญี่ปุ่น โดยรูปแบบของทางร้านจะเป็นการสั่งอาหาร และมีเชฟมาทำให้ดูสดๆหน้าที่นั่งกันเลย โดยวันนี้เลือกทานเมนูไก่และเนื้อ เมื่อสั่งออเดอร์เรียบร้อย เชฟจะออกมาแนะนำตัว และทวนเมนูอาหาร พร้อมกับปรุงสดกันต่อหน้าต่อตาเลยค่ะ
ข้อดีที่รู้สึกได้คือ ทำให้เราเพลินตามาก ไม่รู้สึกว่าอาหารนั้นรอนานเลย เพราะมีอะไรที่น่าสนใจให้ดูระหว่างรอ โดยเชฟจะเริ่มทำเมนูผักก่อน แล้วจึงลงเนื้อตาม แล้วเสิร์ฟตรงหน้าเราเลยค่ะ
นี่คือหน้าตาอาหารที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว หน้าตาดี น่าทานมากๆเลย
สำหรับร้านนี้มีสาขาอยู่หลายที่เลยค่ะ ใครสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน Facebook ด้านล่างได้เลยนะคะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
Miyazaki Teppanyaki – FACEBOOK
Miyazaki Teppanyaki – FACEBOOK
The cure for anything is salt water - Isak Dinesen
“พัทยา” ทะเลใกล้เมืองกรุงที่ใครๆก็ไปได้ ขับรถเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ ถือว่าไปง่ายมากๆ วันนี้ “กวางไปไหน” จะพาไปพักที่ “วีรันดา รีสอร์ท พัทยา” ที่เปิดมาได้ปีกว่าๆแล้ว แต่ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ขนาดวันที่เราไปพักเป็นวันธรรมดา แต่คนเยอะกว่าที่คาดไว้มาก
เมื่อเลี้ยวรถเข้าไปถึง ต้องยอมรับในเรื่องการบริการที่ไม่ขาดตกบกพร่อง พนักงานที่คอยต้อนรับยิ้มแย้มแจ่มใส และพร้อมให้ความช่วยเหลือ และยังมี Welcome Drink เพิ่มความสดชื่นระหว่างรอ Check in หลังจากเอกสารเรียบร้อย เราเข้าไปดูในห้องกันเลยค่ะ
ระเบียงของห้องพัก มีที่นั่งแบบโซฟา นั่งชิลได้สบาย แถมได้วิวสวยแบบนี้เลยค่ะ
หลังจากพักผ่อนในห้องพักจนแดดเริ่มหมด เราไปดูไฮไลท์ของที่นี่กันเลย “สระว่ายน้ำ” แหล่งรวมคนที่คึกคัก และการถ่ายรูปเพื่ออัพเดตลง Social ต้องขอบอกเลยค่ะ ว่าสระว่ายน้ำวิวดีมาก อยู่ติดกับทะเล แถมมีที่นั่งให้รอบๆสระ รวมถึงเก้าอี้พักผ่อนริมทะเลอีกด้วย
พอพระอาทิตย์เริ่มตก ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว เราได้รับการแนะนำจากพนักงานว่าห้องอาหาร Roof Top นั้นวิวดีมาก สามารถดูวิวทะเลได้ เราจึงขึ้นลิฟต์ไปยังชั้น 4 และเดินขึ้นบันไดต่ออีกชั้น ตรงนี้มีจุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกันด้วยค่ะ
หลังจากเก็บภาพกันจุใจแล้ว ถึงเวลาอาหารเย็นค่ะ วันนี้เราจะทานกันที่ห้องอาหาร "I SEA SKY"
หลังทานอาหารเสร็จก็เดินเก็บภาพบรรยากาศยามค่ำคืนของโรงแรม เงียบ สงบ ต่างกับตอนเย็นเลยค่ะ
เช้าวันใหม่เราลงมาทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร “The Deck” เป็นแบบบุฟเฟต์ มีอาหารหลากหลายให้เลือก แต่ด้วยความหิวค่ะ ไม่มีภาพมาให้ชมกัน >.<
ก่อนกลับกรุงเทพก็แวะร้านกาแฟที่วิวดีที่สุดในพัทยากันค่ะ ชื่อร้าน “Coffee Brake” เครื่องดื่มราคาเริ่มต้น 35 บาท แต่วิวหลักล้าน ใครผ่านมาแถวนี้แวะมากันได้นะคะ ร้านอยู่ทางขึ้นเขาพระตำหนัก ที่จอดรถจำกัด ที่นั่งก็จำกัดเช่นกันค่ะ จุดเด่นที่สังเกตได้ง่ายคือ เป็นร้านที่นำรถตู้มาทำเป็นร้าน รสชาติไม่เท่าไหร่ แต่วิวนี่เอาคะแนนเต็มไปเลย
----------------------------------------------------------------------------
เทรนของสมาร์ทโฟนตอนนี้คงต้องกล่าวถึง “กล้องคู่” ที่หลายๆค่ายต่างลงมาเล่นในตลาดนี้กันอย่างแข็งขัน และเรือธงของทางซัมซุงที่เพิ่งเปิดตัวไปล่าสุด Galaxy Note 8 ก็เป็นรุ่นแรกในตระกูลโน้ต ที่มีกล้องคู่เพิ่มเข้ามาเช่นกัน
กล่าวถึงกล้องคู่นี้ก็จะมีทั้งแบบ กล้องคู่ระหว่างเลนส์สีและเลนส์ขาว-ดำ หรือกล้องคู่แบบเลนส์กว้างและเลนส์เทเล ซึ่ง Galaxy Note 8 ออกมาแบบเลนส์กว้างและเลนส์เทเล เหมือนกับ iPhone 7 Plus แต่สิ่งที่ต่างกันนั้นคือ Note 8 มีระบบกันสั่นแบบ Dual OIS ซึ่ง iPhone 7 Plus มีระบบกันสั่นเฉพาะกล้องหลักเท่านั้น
นอกจากนี้ Galaxy Note 8 ยังเพิ่มฟีเจอร์เด็ดโดยการเก็บภาพ 2 ภาพในเวลาเดียวกัน โดยการกดถ่ายภาพหนึ่งครั้ง จะได้รูปภาพปกติ 1 รูป และเลนส์เทเลจะเก็บภาพที่เป็นอีกมุมหนึ่งเป็นภาพมุมไกล เพื่อให้เห็นรายละเอียดที่มากกว่าภาพปกติ ซึ่งเป็นทีเด็ดที่น่าจับตามองทีเดียวค่ะ
ที่มา Phonearena
เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยกับ Samsung Galaxy Note 8 ที่งานนี้สาวก Note ต่างตั้งตารอคอยกันข้ามปีเลยทีเดียว โดยในงานได้เริ่มด้วยการพูดถึง Note รุ่นก่อนๆเรื่อยมาจนถึงข่าวดังปีที่แล้วที่ Galaxy Note 7 มีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ แต่ทางซัมซุงก็ไม่ได้หยุดพัฒนาจนได้มาเปิดตัว Galaxy Note 8 ในวันนี้ เราอย่ารอช้าไปดูสรุปข้อมูลการเปิดตัวของ Samsung Galaxy Note 8 กันเลยค่ะ
ฟีเจอร์เด่นๆที่ต้องพูดถึง
- ระบบสแกนใบหน้า
- ระบบสแกนม่านตา
- ระบบสแกนลายนิ้วมือ
- รองรับการป้องกันน้ำ ป้องกันฝุ่น ระดับ IP68
หน้าจอแสดงผล
หน้าจอแบบ Infinite Display อัตราส่วน 18.5:9 ขนาด 6.3 นิ้ว แบบ Quad HD + Super AMOLED ความละเอียด 2960x1440 Pixel กระจกป้องกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5 โดยขอบทั้ง 2 ข้างเป็นแบบโค้ง หรือขอบจอ Edge เพิ่มพื้นที่ในการใช้งานด้วยมุมมองที่กว้างกว่า และสามารถใช้งาน Multi Window หรือการทำงานพร้อมกัน 2 หน้าต่างในเวลาเดียวกัน
หน่วยประมวลผล
Galaxy Note 8 มาพร้อมหน่วยประมวลผล Octa Core (2.3GHz Quad + 1.7GHz Quad), 64 bit, 10nm processor
หน่วยความจำ
Galaxy Note 8 มาพร้อม Ram 6GB และหน่วยความจำในตัวเครื่อง 64GB มีช่องใส่ SD Card ความจุสูงสุด 256GB โดยช่องใส่ซิมการ์ดแบบไฮบริด (เลือกระหว่างใส่ซิมที่ 2 หรือ SD Card)
กล้อง
กล้องคู่ Dual Camera เก็บภาพได้กว้างกว่าเดิม ด้วยเลนส์กว้าง (Wide Lens) และเลนส์เทเล (Telephoto Lens) พร้อมด้วยระบบกันสั่นทั้ง 2 เลนส์ (Dual OIS)
กล้องหลัง 12MP
กล้องหลัง 12MP
- เลนส์มุมกว้าง (Wide Lens) แบบ Dual Pixel AF, F 1.7, OIS
- เลนส์เทเล (Telephoto Lens) AF, F 2.4, OIS, 2X Optical Zoom, 10X Digital Zoom
กล้องหน้า 8MP AF, F 1.7
โดยโหมดการถ่ายภาพที่เพิ่มขึ้นมาคือ Live focus mode ที่จะสามารถปรับภาพด้านหลังให้เบลอได้ตามต้องการ หลังจากการถ่ายภาพแล้ว รวมถึง Dual Capture ที่จะแคปเจอร์ภาพในมุมกว้างไปพร้อมๆกัน และ Duplex Sensor ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่มืดออกมาได้คมชัดยิ่งขึ้น
S-pen
ปากกาคู่ใจสำหรับ Note เพิ่มความสามารถยิ่งขึ้น ให้การจดโน้ตทุกอย่างทำได้ดังใจ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ไม่ว่าจะวาดรูป ลงสี โดยหัวปากกามีขนาดเล็กลงเหลือเพียง 0.7 มม. ใช้งานได้ใกล้เคียงกับปากกาจริงมากยิ่งขึ้น สามารถรับแรงกดได้มากถึง 4,096 ระดับ โดยฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามามีดังนี้
- Live message วาดภาพส่งเป็นข้อความให้ผู้อื่น
- Screen off memo การเรียกใช้งานการจดบันทึกอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ และยังสามารถปักหมุดไว้แม้จอจะดับอยู่ได้อีกด้วย
- Translate แปลภาษาได้อย่างง่ายดาย เพียงใช้ S-Pen เลือกข้อความที่ต้องการ รวมถึงการแปลงค่าเงิน ทำให้ภาษาไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป
Bixby
ผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่เปิดตัวไปกับ Galaxy S8/S8+ เรียบร้อย ก็บรรจุลงมาใน Galaxy Note 8 เช่นกัน อันนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะได้ทดลองใช้กันไปเรียบร้อยแล้ว
ระบบความปลอดภัย
แน่นอนว่า Galaxy Note 8 จะมาพร้อมกับระบบสแกนม่านตา ระบบสแกนใบหน้า และระบบสแกนลายนิ้วมือ เพื่อรักษาความปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยการรวมรหัสผ่านทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อยืนยันตัวตนในการใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง โดยสามารถใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่นทางการเงิน, Samsung Pay และ Folder ที่กำหนด
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่คือสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญ เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ถ้าความจุน้อยอาจจะใช้งานได้ไม่จุใจ Galaxy Note 8 มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ขนาด 3,300 mAh อีกทั้งยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charge)
สี
เปิดตัวมาทั้งหมด 4 สี คือ Midnight Black, Orchid Gray, Gold Maple และ Deep Sea Blue
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆที่มาพร้อมกับ Galaxy Note 8 ดังนี้
- รองรับการใช้งานชาร์จไร้สาย (Wireless Charging)
- รองรับการใช้งาน Samsung Pay
- รองรับการใช้งาน Secure Folder
- รองรับการเชื่อมต่อ USB Type-C
- รองรับการใช้งานร่วมกับ Samsung Dex อุปกรณ์ที่จะช่วยเชื่อมโยงสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ให้ทำงานร่วมกัน
- มาพร้อมระบบปฎิบัติการ Android 7.1.1 Nougat
สรุปราคาและวันวางจำหน่าย
Galaxy Note 8 จะเริ่มวางจำหน่าย 15 กันยายนนี้เป็นต้นไป และขณะนี้มีการเผยข้อมูลราคาอย่างไม่เป็นทางการที่ $930 หรือประมาณ 33,000 บาท สำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทย ยังไม่มีกำหนดจากซัมซุงไทยแต่อย่างใด ทั้งนี้เราคงต้องรอติดตามข่าวสารกันต่อไปค่ะ
จนถึงตอนนี้ข่าวคราวของ iPhone 8 ได้ออกมามากมาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Apple จะแทนที่ระบบสแกนลายนิ้วมือด้วยระบบสแกนใบหน้า จึงมีคำถามตามมาว่า Apple Pay จะทำงานอย่างไร?
แหล่งข่าวได้ออกมายืนยันแล้วว่า iPhone 8 จะใช้ระบบสแกนใบหน้าในการปลดล็อคแทนการสแกนลายนิ้วมือโดยภาพอ้างอิงจากโค้ดในเฟิร์มแวร์ HomePod จะเห็นฟีเจอร์ “pearl.field-detect” และ “pearl.pre-arm” อยู่ในโค้ดส่วนการชำระเงิน
แม้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า Apple Pay จะทำงานอย่างไร แต่ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า iPhone 8 จะใช้ระบบสแกนใบหน้าแทนการสแกนลายนิ้วมือเพื่อชำระเงิน
ที่มา : Macrumors
ยิ่งใกล้วันเปิดตัวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีข่าวคราวของ Galaxy Note 8 ออกมามากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้จะมาสรุปสเปคล่าสุดที่มีข่าวลือหลุดออกมาให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
รายละเอียดสเปค Galaxy Note 8
- ขนาด 162.5 x 74.6 x 8.5 มม. (หนาและใหญ่กว่า Galaxy S8+)
- มาตรฐาน IP68 กันน้ำและกันฝุ่น
- หน้าจอแสดงผลขนาด 6.3 นิ้ว แบบ Super AMOLED ขอบจอโค้งทั้ง 2 ด้าน
- ความละเอียดหน้าจอ 1440x2960 pixels อัตราส่วน 18.5:9 หน้าจอแบบ Infinity
- วัสดุหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 (US model), Exynos 8895 (International model)
- ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.2
- ปากกา S-Pen
- แรม 6GB
- หน่วยความจำในตัวเครื่อง 64GB, 128GB
- รองรับ microSD Card สูงสุด 256GB
- กล้องหลังคู่ 12+13 ล้านพิกเซล ซูมแบบ optical 2x พร้อมระบบกันสั่น
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล autofocus f/1.6
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 5.0, GPS, NFC, USB Type-C
- ระบบสแกนม่านตา และวัดอัตราการเต้นหัวใจ
- ความจุแบตเตอรี่ 3300 mAh รองรับการชาร์จไร้สาย และรองรับการชาร์จแบบ Fast charging
- มี 2 สี คือ Midnight Black และ Maple Gold และอาจจะมีเพิ่มอีก 2 สีภายหลังคือ Deep Sea Blue และ Orchid Grey
- ราคาประมาณ $1,000 (~36,000 บาท)
ที่มา : Phonearena, Theleaker