ว่าด้วยเรื่อง...การเลือกซื้อแอร์...

By kwangdui - 17:40:00


บอกได้เลยว่า "แอร์" หรือ "เครื่องปรับอากาศ" นี่มีความสำคัญมากจริงๆ ไม่เคยคิดว่าชีวิตต้องมาเจอจุดเปลี่ยนที่แอร์พัง เห้ย! มันแบบ นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ตื่นตลอดคืนเลยอ่ะ เกิดมา 30 กว่าปี ต้องมาเลือกซื้อแอร์เองก็วันนี้นี่แหล่ะ เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเลยจริงๆ อยู่ดีๆก็มีเรื่องเสียทรัพย์ เอาหล่ะขอแชร์เรื่องการเลือกซื้อแอร์ไว้เป็นประสบการณ์

📌เริ่มแรกเลย สิ่งที่เราต้องคำนึงถึงคือ BTU คุณต้องรู้ก่อนว่าห้องคุณมีขนาดเท่าไหร่? กี่ตารางเมตร? โดนแดด หรือไม่โดนแดด? พวกนี้คือสิ่งที่จะบอกคุณได้ว่าต้องซื้อแอร์ขนาดกี่ BTU และจะนำมาซึ่งราคาที่จะต้องจ่าย โชคดีแค่ไหนที่สมัยนี้มี Google เรื่องทุกอย่างมันง่ายขึ้นมากที่มีคนมีปัญหาแบบที่เราเจอ และมีคนที่ให้คำแนะนำเยอะแยะมากมาย

Image result for แอร์ กี่ BTU

💡ข้อควรรู้ : ถ้า BTU ต่ำไป คอมเพรสเซอร์จะทำงานตลอดเวลา เพราะต้องทำความเย็นรักษาอุณหภูมิห้อง เหมือนเครื่องทำงาน Over ทำให้พังเร็ว! จำไว้เลย แต่ถ้า BTU สูงเกิน ก็เปลืองไฟ อ่านมาว่าให้บวกลบได้ประมาณ 1000 BTU

เมื่อรู้ขนาด BTU แล้ว ก็ต้องมาเลือกยี่ห้อกันอีก มีหลายยี่ห้อให้ปวดหัว Mitsubishi, Sharp, Daikin, LG, Samsung, Panasonic, Carrier, Haier, etc....

อย่างของเราตัดสินใจเลือกระหว่าง Daikin / Carrier / Haier ทุกรุ่นที่ดูเราดูแบบ Inverter เลย ซื้อทั้งที่เอาแบบใหม่ เพราะของแบบนี้ต้องใช้อีกนาน 
👉Daikin ข้อดี : แบรนด์ตลาด เงียบ อะไหล่หาง่าย บริการหลังการขายดี ข้อเสีย : ราคาสูง
👉Carrier ข้อดี : ราคาน่าคบหา น่าจะมีความทนทานอยู่ในระดับหนึ่ง ข้อเสีย : บริการหลังการขายและอะไหล่รอนาน หากสินค้ามีปัญหา
👉Haier ข้อดี : ราคาดี เป็นมิตรกับกระเป๋าตังค์ รับประกันนาน ข้อเสีย : กลัวใจพี่จีน

สรุปสุดท้ายมาจบที่ Daikin เพราะเป็นคนดวงไม่ค่อยดี ซื้อของอะไรแล้วชอบพัง เลยเน้นที่บริการหลังการขาย ความเงียบของแอร์ก็เป็นส่วนรองลงมาที่ประกอบการตัดสินใจ แล้วงบประมาณราคายังพอจ่ายไหว (อันนี้สำคัญที่สุด T^T) อ่อที่สำคัญ รุ่นที่เราเลือกมีระบบป้องกันปัญหาไฟตก ไฟกระชาก ซึ่งที่บ้านเราเจอปัญหานี้แบบถี่ๆๆ เครื่องใช้ไฟฟ้าพังด้วยเหตุผลนี้มาหลายชิ้น อันนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน 555

ต้องดูด้วยนะว่า BTU ของเราที่เหมาะสมนั้น ยี่ห้อไหน รุ่นไหนมี เอาว่า BTU เกินได้ แต่อย่าขาด ไม่งั้นเครื่องทำงานหนัก แอร์พังไปอี๊กก

ซื้อร้านไหนดี? สำหรับบางคนที่ไม่มีเวลา เอาง่ายและสะดวก เดินดูตาม Homepro, Powerbuy หรือตามห้างจะดีมาก แต่เรามีร้านแอร์ประจำที่ให้ดูแลที่บ้าน คุยด้วยแล้ว รู้สึกว่าร้านดี ไม่หมกเม็ด เราหาราคามาตรฐานตาม google แล้วลองเทียบดูแล้ว มันโอเค จบ

ค่าใช้จ่าย? นอกจากค่าแอร์แล้ว มาตรฐาน ในการติดตั้งจะมีค่าติดตั้ง (ค่าแรงช่าง), อุปกรณ์ส่วนเกินในการติดตั้ง (รางครอบท่อ, สายไฟส่วนเกิน ฯลฯ), ค่ารื้อถอนแอร์เดิม (ถ้ามี) คุยตกลงกันให้เรียบร้อยว่าราคาที่ได้ รวมอะไรและไม่รวมอะไร บางที่บอกรวมค่าติดตั้ง ไม่รวมค่ารื้อถอนก็มีนะจ๊ะ

💡ข้อควรรู้ :
1. การติดตั้งแอร์เลือกทำเลให้ดี เพราะจะอยู่กับเราไปอีกนาน อีกอย่างเจาะรูแล้ว ผนังเป็นรูนะฮ้าบบ
2. เสา เป็นอุปสรรคในการใส่รางครอบท่อ อาจจะต้องใช้วิธีพันด้วยเทปแทน ซึ่งความสวยงามติดลบ แต่ช่วยไม่ได้ละอันนี้ขึ้นอยู่กับสภาพหน้างาน ช่างบางคนอาจจะติดได้ ขึ้นอยู่กับฝีมือช่างด้วยนะ
3. ท่อแอร์ไม่ควรขดงอเยอะ มันจะหักได้

💸สุดท้าย ถ้าใครมีแอร์เก่า อย่าลืมถามร้านว่ารับเทิร์นมั้ย ไม่งั้นจะเก็บแอร์เก่าไว้ทำไมหล่ะยูววว หาที่ทิ้งยากเป็นขยะรกในบ้านอีกนะคะซิสส และจะซื้อของหลักหมื่นทั้งที่ถามหาโปรบัตรเครดิตค่ะ จ่ายเงินทั้งทีต้องเอาให้คุ้ม จะผ่อน จะเครดิตเงินคืนอะไรก็ว่ากันไป

สนุกสนานกับการเลือกซื้อแอร์ และเสียทรัพย์กันแล้ว ขอให้นอนหลับฝันดี เย็นสบายกันถ้วนหน้านะคะ 💋💋💋


  • Share:

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น

Translate